ด้วยข้อจำกัดของที่ดินในกรุงเทพฯที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการคอนโดมีจำนวนจำกัด และหาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ โครงการคอนโด เปิดใหม่จึงแผ่ขยายออกไปอยู่ในเขตชานเมืองมากขึ้น ส่วนคอนโดที่เปิดตัวใหม่ใจกลางเมืองก็เปิดตัวด้วยราคาสูงลิ่ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ผู้หาซื้อคอนโดมิเนียมจะเริ่มมองและพิจารณาคอนโดมือสองมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ด้วยทำเลที่ตั้งที่ดีกว่าในราคาที่ต่ำกว่าโครงการใหม่ระดับเดียวกันที่เปิดตัวในย่านเดียวกัน

พบว่าจากจำนวนหน่วยห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดนั้น เป็นหน่วยห้องชุดใหม่ประมาณ 69% และเป็นหน่วยห้องชุดมือสองประมาณ 31% ทั้งปีที่มีสัดส่วน 68:32 ส่วนพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมมือสองมากที่สุด ได้แก่ เขตบางกะปิ เขตพระโขนง เขตบางซื่อ อำเภอบางใหญ่นนทบุรี และอำเภอเมืองนนทบุรี ตามลำดับ

ถึงแม้โครงการคอนโดมือสองนั้นคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของการโอนห้องชุดทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนการโอนที่อยู่อาศัยมือสองประเภทอื่นๆอย่างบ้านเดี่ยว (53%) บ้านแฝด (32%) ทาวน์เฮาส์ (52%) และอาคารพาณิชย์ (78%) จะพบว่าสัดส่วนการโอน condo มือสองยังน้อยกว่ามาก อีกทั้งในต่างประเทศอย่างอเมริกานั้น ตลาดบ้านมือสองมีขนาดใหญ่กว่าตลาดบ้านใหม่หลายเท่านัก (ดูกราฟประกอบ) เนื่องด้วยคนในอเมริกามีการย้ายถิ่นฐาน ค่อนข้างบ่อยเมื่อเทียบกับคนไทยที่มักจะอยู่ติดที่

อาจมีสมัยหนึ่งที่ condo มือสองถูกใช้เป็นเครื่องมือหากำไรจากผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง โดยนักลงทุนจะซื้อไว้เพื่อปล่อยขายต่อในราคาแพง แต่ในภาวะตลาดของผู้ซื้อ  เช่นในปัจจุบัน ที่มีอุปทานในตลาดทั้งคอนโดใหม่และเก่าให้ผู้ซื้อเลือกมากมายเช่นนี้ ผู้ซื้อย่อมมีอำนาจต่อรองราคาเพื่อให้ได้ของดีในราคาสมเหตุสมผล